ปลูกผม FUE/ ADVANCE TIDY/ non shaven fue

ปลูกผมเทคนิค FUE : ศิลปะแห่งการดีไซน์แนวผม คืนความหล่ออย่างเป็นธรรมชาติ

“ทรงผมเปลี่ยน… หน้าก็เปลี่ยน” ปัญหาผมบาง หน้าผากเถิก หรือศีรษะล้าน ไม่ได้ทำลายแค่เส้นผม แต่ยังลดทอนความมั่นใจและทำให้ใบหน้าดูมีอายุเกินจริง การแก้ไขด้วย เทคนิค FUE (Follicular Unit Excision) จึงไม่ใช่แค่การย้ายรากผมมาปลูกใหม่ แต่คือ “งานศิลปะทางการแพทย์” ที่ต้องอาศัยความประณีตขั้นสูง

ทำไมต้องปลูกผม FUE ที่นี่? หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่จำนวนกราฟท์ แต่อยู่ที่ “การออกแบบแนวไรผม (Hairline Design)” ทีมแพทย์ของเราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์โครงหน้า (Facial Anatomy) ของผู้ชายแต่ละคนอย่างละเอียด เพื่อสร้างแนวผมใหม่ที่:

• รับกับกรอบหน้า: คำนวณสัดส่วนหน้าผากให้สมดุล ไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป
• ดูเป็นธรรมชาติ (Natural Look): ไม่ปลูกเป็นเส้นตรงทื่อเหมือนใส่วิก แต่มีการไล่ระดับความหนาแน่น (Density Grading) และสร้างไรผมเล็กๆ ด้านหน้า (Micro-hairline) เพื่อให้ดูเหมือนผมจริงที่แม่ให้มา
• ไร้แผลเป็นยาว: ด้วยเทคนิค FUE ที่เจาะย้ายรากผมทีละกอ ทำให้แผลมีขนาดเล็กมาก พักฟื้นไว และสามารถตัดผมสั้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็นด้านหลัง

ผลลัพธ์ที่ได้: คุณจะได้บุคลิกใหม่ที่ดู Smart, คมเข้ม และดูอ่อนเยาว์ขึ้น มั่นใจได้ในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเสยผม เซ็ตผมทรงไหน ก็ดูดีแบบไม่มีโป๊ะ

รีวิวปลูกผม SHORT HAIR TiDY

          SHORT HAIR TiDY แม่นยำสูงสุด ดูแลง่าย กราฟท์แน่นเต็มพิกัด เทคนิคการปลูกผมที่เปิดเผยพื้นที่ศีรษะอย่างชัดเจน ช่วยให้แพทย์สามารถคัดเลือกและวางตำแหน่งรากผมได้อย่างไร้ขีดจำกัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางเป็นบริเวณกว้าง และต้องการเน้นความหนาแน่นของเส้นผมใหม่ให้มากที่สุด พร้อมการดูแลหลังทำที่ง่ายและสะดวกสบาย

1. ปรึกษาและประเมินโครงสร้าง (Consultation)
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจสภาพเส้นผมและหนังศีรษะอย่างละเอียด เพื่อประเมินพื้นที่ที่ต้องการปลูก (Recipient Area) และกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละราย

2. ออกแบบแนวไรผม (Hairline Design)
แพทย์จะวาดแนวไรผมใหม่ลงบนหนังศีรษะเพื่อให้คนไข้ได้พิจารณาร่วมกัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้กรอบหน้าที่ดูดีและเป็นธรรมชาติที่สุด

3. คำนวณจำนวนกราฟท์ (Graft Calculation)
มีการใช้แผ่นวัดตารางโปร่งแสงทาบลงบนพื้นที่ศีรษะ เพื่อคำนวณจำนวนกราฟท์ที่ต้องใช้จริงอย่างแม่นยำ มั่นใจได้ว่าความหนาแน่นจะเพียงพอต่อการปกปิดปัญหา

4. เตรียมบริเวณท้ายทอย (Donor Area Preparation)
เริ่มต้นด้วยการตัดแต่งผมบริเวณท้ายทอย (Donor Area) ให้สั้นลง เพื่อความสะดวกและสะอาดในการย้ายรากผม ซึ่งเป็นบริเวณที่รากผมมีความแข็งแรงถาวร

5. ระงับความรู้สึก (Local Anesthesia)
แพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณท้ายทอย และรอจนกว่ายาจะออกฤทธิ์เต็มที่ เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บตลอดขั้นตอนการเจาะกราฟท์ (ในบางกรณีอาจมีการใช้ยากล่อมประสาทแบบอ่อนร่วมด้วย)

6. การเจาะเก็บกราฟท์ผม (Donor Extraction)
คนไข้นอนคว่ำ แพทย์จะใช้หัวเจาะขนาดเล็กพิเศษ (Micro-punch) ขนาดเพียง 0.8–1.0 มม. เจาะย้ายรากผมทีละกอ โดยใช้เทคนิคการเจาะแบบกระจายตัว (Scattered Extraction) เพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นแนวยาว และยังคงรักษาความหนาแน่นของผมด้านหลังให้ดูเป็นธรรมชาติ

7. การดูแลแผลหลังเจาะ (Donor Wound Care)
เมื่อทำการเก็บกราฟท์เสร็จสิ้น ทีมแพทย์จะทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ (Antibiotic Ointment) บริเวณแผลเจาะ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันการติดเชื้อ

8. การแช่น้ำเลี้ยงเซลล์ (Graft Preservation)
รากผมที่เจาะออกมาจะถูกนำไปแช่ในน้ำเลี้ยงเซลล์สูตรพิเศษ (Holding Solution) ทันที เพื่อควบคุมอุณหภูมิและรักษาสภาพความสมบูรณ์ของเซลล์ (Viability) ให้ดีที่สุดก่อนนำไปปลูก

 

 

9. การคัดแยกด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic Dissection)
ทีมแพทย์จะนำกราฟท์ผมมาส่องผ่านกล้องจุลทรรศน์ เพื่อคัดแยกและตัดแต่งเนื้อเยื่อส่วนเกินออกอย่างประณีต ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้ความแม่นยำสูง เพื่อให้ได้กอผมที่สวยงามสมบูรณ์พร้อมสำหรับการปลูก

10. เตรียมพื้นที่ปลูก (Recipient Preparation)
คนไข้จะเปลี่ยนท่านอนเป็นท่านอนหงาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปักกราฟท์ผมลงในบริเวณที่ต้องการ

 

11. เตรียมผิวหนังและระงับความรู้สึก (Skin Preparation and Anesthesia)
แพทย์ฉีดยาชาบริเวณที่จะปลูก ร่วมกับการฉีดน้ำเกลือผสมยาห้ามเลือด (Tumescent Solution) เพื่อช่วยขยายชั้นผิวหนัง ลดการเลือดออก และช่วยให้การปักรากผมทำได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น

12. การเจาะและปักกราฟท์ (Implantation)
แพทย์จะทำการเจาะรู (Slit Making) ตามทิศทางและองศาของแนวผมธรรมชาติที่ออกแบบไว้ จากนั้นจะนำเซลล์รากผมที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในรูอย่างระมัดระวังด้วยอุปกรณ์ปลูกพิเศษ จนครบตามจำนวน

 

13. การดูแลหลังทำทันที (Immediate Post-Op Care)
เมื่อกระบวนการปลูกเสร็จสิ้น แพทย์จะปิดแผลด้านหลังด้วยผ้ากอซและพันรอบศีรษะ (Headband) เพื่อป้องกันเชื้อโรคและลดอาการบวม โดยจะไม่รัดแน่นจนเกินไป พร้อมสวมหมวกคลุมที่ทางคลินิกจัดเตรียมให้ (หลังจากนั้น 3 วัน คนไข้จะกลับเข้ามาเพื่อสระผมและทำแผลตามนัดหมาย) โดยทั่วไปหัตถการนี้จะใช้เวลาประมาณ 6–8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟท์ผม

 

 

ปรึกษาและนัดหมาย

เบอร์โทร : 064 645 6469

Line OA : @facebodyclinic